วานนี้ (14 พ.ย.) ตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี ได้แถลงข่าวจับกุม นายอ้วน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยมีของกลางเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเดินไปก่อเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ระบุว่า
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากยายของเด็กชายวัย 13 ปี ชาวชุมชนหนองตุ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ว่าขณะหลานชายขี่รถจักรยานอยู่ที่หน้าบ้านพัก ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นบีบคอบังคับให้อมนกเขาในป่าละเมาะข้างทาง ด้านหลังวัดวิเวกบุรพาชัย ซึ่งห่างจากบ้านราว 400 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที ก่อนปล่อยตัวออกมา พร้อมกับขู่ว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะกลับมาฆ่าให้ตาย
หลังเกิดเหตุทำให้ชาวบ้านที่มีบุตรหลานในวัยเดียวกันกับผู้เสียหายต่างพากันหวาดกลัว ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อความสงบสุขความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งชุมชนแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนในชุมชนที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานเจ้าของหอพัก และชาวบ้านที่มีกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เดินเท้ามาก่อเหตุและหลบหนีไป ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนประสานประธานชุมชนหนองตุ 3 จนเป็นที่แน่ใจว่าคนร้ายไม่ใช่คนในชุมชน เพราะไม่มีใครรู้จัก จึงนำรูปภาพจากกล้องวงจรปิด ตำหนิรูปพรรณคนร้าย พร้อมกับตั้งรางวัลนำจับ และมอบหมายให้ประธานชุมชนประสานชาวบ้านให้ช่วยแจ้งเบาะแส
กระทั่งในเวลาต่อมา สามารถตามจับกุมคนร้ายได้ที่ ถ.โพศรี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะกำลังขนสินค้าลงจากรถบรรทุกบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร และควบคุมตัวไปตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุที่บ้านพักคนงานของบริษัทขนส่งดังกล่าว ก่อนนำตัวมาสอบสวน
คนร้ายให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อแม่แยกทางกัน จึงออกจากบ้านมาหางานทำที่บริษัทขนส่งฯ ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนก่อเหตุตนเดินไปเติมเงินโทรศัพท์ และขากลับผ่านมาเห็นผู้เสียหายกำลังปั่นจักรยานอยู่หน้าบ้านตามลำพัง จึงเดินเข้าไปบีบคอบังคับขืนใจให้อมนกเขาในป่าละเมาะข้างทาง แต่ไม่สำเร็จความใคร่ เนื่องจากช่วงเย็นในป่ามียุงชุมมาก
สาเหตุที่กระทำลงไปเพราะ เปิดดูเว็บไซต์หนังโป๊ในโทรศัพท์ ที่มีผู้ชายกำลังร่วมเพศกับเพศเดียวกัน จึงอยากลองของจริงว่าจะเป็นอย่างไร หลังก่อเหตุก็มาทำงานตามปกติ และไม่ได้ดูข่าว กระทั่งมาถูกตำรวจแกะรอยจับกุมตัวได้
รวบแม่เล้าวัย 19 ปี ค้าประเวณีเด็กสาววัยรุ่นในเมืองสัตหีบ
วันนี้ (14 พ.ย.) ตำรวจสภ.สัตหีบได้สนธิกำลังจับกุม น.ส.ฮาวา หรือปริ้นซ์ สมานสินธุ์ อายุ 19 ปี ในข้อหาลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ภายในร้านน้องแจ๊สคาราโอเกะ เลขที่ 1/141 ตลาดทองทิพย์ ม.8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ตำรวจได้ใช้วิธีการล่อซื้อเด็กสาวจาก น.ส.ฮาวา เป็นเงิน 1,500 บาท ก่อนจะรวบตัว น.ส.ฮาวา พร้อมเด็กสาววัย 13 ปีที่ถูกนำมาค้าบริการทางเพศ นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมหญิงสาวที่ทำงานในร้านดังกล่าวที่ อายุระหว่าง 13-19 ปี ได้อีก 6 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.ฮาวา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน แสวงหาประโยชน์จากเด็ก เป็นธุระจัดหาชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อให้ทำการค้าประเวณี
ก่อนหน้านี้ มีการสืบทราบว่า ร้านแจ๊สคาราโอเกะ ได้ลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเปิดคาราโอเกะบังหน้า จนช่วงเวลาเที่ยงคืนของเมื่อคืนนี้ จึงได้วางแผนเข้าทำการล่อซื้อประเวณีจากเด็กสาวอายุ 13 ปีซึ่งทำงานให้กับ น.ส.ฮาวา ก่อนจะรวบตัวได้ดังกล่าวขณะที่เด็กสาวกำลังจะแบ่งเงินค่าตัวให้กับ น.ส.ฮาวา เจ้าของร้าน จำนวน 300 บาท และเตรียมจะพาเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวเป็นผู้เข้ามาใช้บริการ ไปเปิดโรงแรมเพื่อร่วมหลับนอน จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
ตำรวจกองปราบบุกเข้าควบคุมตัวชายชาวกาฬสินธุ์ 2 รายคือ นายชานนท์ กมลภา อายุ 30 ปี และ นายศิริชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ในข้อหาทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายชานนท์ ได้ที่หน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ส่วนนายศิริชัย จับกุมได้ภายในนิคมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนีอยู่คือ นายชัยณรงค์ ศรีสมชัย
ตำรวจระบุว่า เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาคือ นายชานนท์ นายศิริชัย และ นายชัยณรงค์ นั้นได้ร่วมกันวางแผนให้นายศิริชัยโทรศัพท์ไปลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันให้ออกมาหา จากนั้นก็พานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปยังเถียงนาท้ายหมู่บ้าน ซึ่งมีนายชานนท์ และนายชัยณรงค์นั่งกินเหล้ารออยู่แล้ว
เมื่อไปถึงนายชัยณรงค์ก็บังคับพาผู้เสียหายไปที่บ้านพักของตนเอง ก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง เสร็จแล้วนายชัยณรงค์ยังพาเด็กหญิงผู้เสียหายไปส่งที่กระท่อมในสวนยางของนายชานนท์ ซึ่งเด็กถูกนายชานนท์ข่มขืนอีกครั้ง เสร็จแล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็พาตัวด.ญ.เอไปไว้ริมถนนใกล้ๆ กับบ้านของผู้เสียหาย
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร